จากกรณีพรรคเพื่อไทยไปหารือกับพรรคก้าวไกลเมื่อวานนี้ คงสร้างความสงสัยให้หลายคนว่าเมื่อประกาศแยกทางจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันแล้ว พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลจะหารือกันเรื่องอะไร?
วันนี้มีคำตอบแล้ว โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ชี้แจงถึงการพูดคุยดังกล่าว หลังการแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคชาติไทยพัฒนา โดยคำถามของสื่อมวลชนส่วนใหญ่ มุ่งไปที่การหารือเมื่อวานนี้ ซึ่งสร้างความกังวลให้ สว.บางกลุ่มถึงทิศทางการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย
โดย นพ.ชลน่าน อธิบายว่า พรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลพยายามจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ ไม่ได้รับการสนับสนุนจากเสียงในรัฐสภา และเมื่อพรรคก้าวไกลส่งต่อให้พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาล เราก็หาทางรวบรวมเสียงให้ได้เกิน 376 เสียง และจากการพูดคุยทุกพรรคได้รับคำตอบชัดว่าไม่โหวตให้หากพรรคก้าวไกลร่วมอยู่ในรัฐบาล ดังนั้นเราจึงต้องหาคะแนนเพิ่มจากพรรคอื่นภายใต้เงื่อนไขว่าถ้ามีพรรคก้าวไกลอยู่ก็ไม่ได้คะแนน
“การบริหารจัดการในเรื่องนี้เราเองจำยอมที่จะต้องทำ เราไม่เคยเกลียดพรรคก้าวไกล เราไม่เคยปฏิเสธเสียงประชาชนที่ให้มา แต่ในสถานการณ์อย่างนี้ หากพรรคเพื่อไทยไม่เดินหน้าทำอะไรเลย ปล่อยให้บ้านเมืองเป็นอย่างนี้ เท่ากับปฏิเสธความรับผิดชอบต่อประชาชนและประเทศชาติบ้านเมือง ดังนั้นการที่เราจะแสวงหาเสียงเพิ่มเติมขึ้น ก็เป็นสิทธิอันชอบธรรมที่เราได้รับมอบมาย”
นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า ส่วนความกังวลของ สว.นั้น หลังจากที่เราเดินขอคะแนน ในนามของพรรคเพื่อไทยและพรรคอื่นๆ โดยไม่มีพรรคก้าวไกล ซึ่งการที่เราไปขอคะแนนโหวตจากทุกพรรคเพื่อโหวตนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่จัดตั้งรัฐบาล เพราะเราติดล็อกรัฐธรรมนูญอยู่ ซึ่งเราก็พยายามจะขอให้ทุกพรรคทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วม
ทั้งนี้การเดินทางไปพูดคุยกับทุกพรรค รวมทั้งการพูดคุยกับพรรคก้าวไกลเมื่อวานเป็นเจตจำนงเพียงเพื่อไปสอบถามและขอความร่วมมือว่าเป็นไปได้มากน้อยขนาดไหนที่เราจะมาปลดล็อกรัฐธรรมนูญ ในเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญ ที่เราไม่ได้ไปเชิญพรรคก้าวไกลเป็นพรรคร่วมรัฐบาล และไม่มีพันธะสัญญานำพรรคก้าวไกลมาร่วมรัฐบาลหลังจากนี้ ดังนั้นความกังวลของ สว.บางส่วนในเรื่องนี้เราสามารถตอบคำถามด้วยพฤติการณ์และพฤติกรรม โดยสิ่งที่เราทำอยู่ตอนนี้เพี่อให้ความมั่นใจกับทุกภาคส่วน ก็คาดว่าจะได้รับการยอมรับจาก สว.
ด้านนายภูมิธรม กล่าวว่า การไปเมื่อวานนี้ไม่ใช่สิ่งผิดปกติที่พรรคเพื่อไทยดำเนินการ เพราะเราไปทุกพรรค ทุกฝ่าย ทุกคน รวมทั้ง สว. ซึ่งเป็นการปฏิบัติที่เป็นจริงที่สะท้อนว่าเราต้องการสลายขั้วความขัดแย้งทางการเมใอง แต่ยืนยันได้อย่างหนึ่งว่าไม่ใช่การไปเชิญพรรคก้าวไกลมาร่วมรัฐบาล เพราะเราชัดเจนตั้งแต่ตอนแยกกันว่าพรรคก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้าน พรรคเพื่อไทยมาตั้งรัฐบาล
ดังนั้นสิ่งที่ไปเพื่อรับฟังความเห็นพรรคก้าวไกล เพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้สามารถสร้างมิติการเมืองใหม่ โดยพรรครัฐบาลหรือพรรคฝ่ายค้านรอยู่ในสภาจะทำงานอย่างสร้างสรรค์ ไม่ใช่ทำตรงกันข้ามเสมอ แต่อะไรที่เป็นประโยชน์กับประชาชนเราทำได้ทุกเรื่องยกเว้นเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 และเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสถาบันหลักของประเทศ
"อุ๊งอิ๊งค์" อุบตอบวัน "ทักษิณ" กลับไทยครั้งหน้าขอให้รอดู
"เพื่อไทย" จับมือ "ชาติไทยพัฒนา" รวมเสียงตั้งรัฐบาลเพิ่ม จ่อแก้วิกฤตประเทศ
เพื่อไทยแถลงข่าว ดึง 5 พรรคจัดตั้งรัฐบาล ย้ำสลายขั้วฝ่าวิกฤติประเทศ
นายภูมิธรม กล่าวว่า อีกประเด็นที่เราได้พูดอย่างชัดเจนคือว่า วันนี้เราจัดตั้งรัฐบาลในมิติใหม่ ไม่ใช่เอาผลประโยชน์เป็นตัวตั้งแล้มแบ่งแยกว่าใครจะคุมกระทรวงไหน วันนี้สิ่งที่เราต้องการอันดับแรกเลยคือการแก้วิกฤติของประเทศเราขอให้เขาให้ความไว้วางใจพรรคเพื่อไทยและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยนำการแก้ไขวิกฤติของประเทศ
“เราไม่ได้ไปเชิญใครร่วมรัฐบาล ชัดเจนทุกอย่าง แต่สิ่งที่เป็นปัญหาอันดับแรก คือเชิญให้มาช่วยกันโหวตให้ความไว้วางใจพรรคเพื่อไทย และแคนดิเดตนจายกรัฐมนตรีของเรา ทุกพรรคเราไปพบหมดแล้ว ได้คุยหมดแล้วทั้งหมดทุกกลุ่ม ส่วนกระบวนการที่จะได้มาซึ่งข้อสรุปก็ให้มันเป็นไปตามกรอบเวลาตามวาระ”
เมื่อถามว่าหากไปขอเสียงแล้วพรรคก้าวไกลไม่โหวตให้จะทำอย่างไร จะไปคุยกับพรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติให้โหวตให้หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราได้คุยตั้งแต่เมื่อวาน และเราก็ได้พูดถึงสถานการณ์พิเศษ กับเจตจำนงของพรรคเพื่อไทย แล้วให้แต่ละฝ่ายไปไตร่ตรองและคิด ก่อนจะโหวต ซึ่งวั้นนี้นี้เราทำคู่ขนานกันไป หากพรรคไหนพร้อมเราก็เปิดตัวแต่ละพรรค ทุกพรรคคุยหมดแล้วแต่เราไม่ได้คาดคั้นให้ต้องตอบเราอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ให้แสดงเจตจำนง และแสดงให้เราเห็นในวันโหวตนายกรัฐมนตรี ซึ่งการไปพูดคุยกับพรรคก้าวไกลเมื่อวานนี้ก็คุยสถานการณ์กับการโหวตนายกรัฐมตรี ให้ไว้ใจเราคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง